Custom Search

วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

ผิวสวย หน้าใส ด้วยมะพร้าว/ผลไม้เพื่อสุขภาพ ง่ายๆของคุณ



ผิวสวย หน้าใส ด้วยมะพร้าว

ทราบหรือไม่ว่า มะพร้าวก็สามารถทำให้ผิวสวย หน้าใส ได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาฝากกัน...

- อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด

น้ำมะพร้าวถือเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่จากธรรมชาติ (Natural Mineral Drink) เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม เหล็ก โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ทองแดง กรดอะมิโน กรดอินทรีย์ และวิตามินบี แถมยังมีน้ำตาลกลูโคสที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้เป็นพลังงานได้ทันทีอีกด้วย

- ชะลออาการอัลไซเมอร์

การดื่มน้ำมะพร้าวทุกวันจะช่วยชะลออาการอัลไซเมอร์ได้ จากผลงานวิจัยของ ดร.นิซาอูดะห์ ระเด่นอาหมัด อาจารย์ประจำภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่า ในน้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนคล้ายฮอร์โมนเพศหญิงหรือเอสโตรเจนสูง ซึ่งมีผลช่วยชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์หรือความจำเสื่อมในสตรีวัยทอง นอกจากนี้ การดื่ม น้ำมะพร้าวเป็นประจำทุกวันยังสามารถช่วยสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้นกว่าปกติ และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นอีกด้วย

- ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

น้ำมะพร้าวสามารถช่วยเสริมสร้างความสวยใสของผิวพรรณ ทำให้เปล่งปลั่งและขาวนวลขึ้นจากภายในสู่ภายนอก เพราะในน้ำมะพร้าวมีเอสโตรเจนอยู่ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น และชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ และในน้ำมะพร้าวยังสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์ได้ดี แถมยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ขับของเสียหรือสารพิษออกจากร่างกาย (คล้ายๆ กับการดีท็อกซ์) จึงช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใส อีกทั้งความเป็นด่างของน้ำมะพร้าวยังช่วยปรับสมดุลของร่างกายในช่วงที่มีความเป็นกรดสูง ทำให้กลไกการทำงานของระบบภายในเป็นปกติ ส่งผลให้มีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

- สปอร์ตดริ๊งค์จากธรรมชาติ

เนื่องจากน้ำมะพร้าวมีปริมาณเกลือแร่ที่จำเป็นสูง รวมทั้งมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาความอ่อนเพลียเนื่องจากอาการท้องเสียหรือท้องร่วงได้ จึงจัดเป็นสปอร์ตดริ๊งค์ (Sport Drink) สามารถดื่มหลังการสูญเสียเหงื่อจากการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย นอกจากนี้ ในประเทศไต้หวันและประเทศจีน ยังนิยมดื่มน้ำมะพร้าวเพื่อลดอาการเมาหลังการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย

รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าอยากมีผิวสวย หน้าใส ก็ดื่มน้ำมะพร้าวกันดูได้

ที่มา เดลินิวส์



นมวัว กับ นมถั่วเหลือง/ผลไม้เพื่อสุขภาพ ง่ายๆของคุณ


"ที่เค้าว่านมถั่วเหลืองดีอย่างโน้นอย่างนี้ แถมราคาก็ถูกกว่านมวัว แล้วอย่างนี้เราจะหันมาดื่มนมถั่วเหลืองแทนนมวัวซะเลยจะดีไหม" คำถามนี้เคยเกิดขึ้นในใจ คุณบ้างรึเปล่า? วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยที่ว่านี้กันให้ชัดๆ เลย

ในเรื่องของโปรตีน ถ้าทำน้ำถั่วเหลืองจากสูตร ถั่วเหลือง 1 ส่วนต่อน้ำ 8 ส่วน จะได้โปรตีนใกล้เคียงกับนมวัว คือ ดื่มนมถั่วเหลือง 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร) จะ ได้โปรตีน ประมาณ 6 กรัม (นมวัว 1 แก้ว จะได้โปรตีนประมาณ 7 กรัม) แต่ คุณภาพ โปรตีนในนมวัวมีความสมบูรณ์ ของกรดอะมิโนที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีนดีกว่า โปรตีนจากถั่วเหลือง ที่มาจากพืช แต่คุณภาพของโปตีนในนมถั่วเหลือง ก็สามารถ เสริมให้ดีขึ้นได้ ด้วยการ เติมเครื่องต่างๆ อย่างที่นิยมกัน เช่น ลูกเดือย สาคู ถั่วแดง ลงไป ได้ทั้งความอร่อยแถมคุณค่าของโปรตีนสมบูรณ์ขึ้น

พลังงานที่ได้จากนมวัวจะมีไขมันมากกว่านมถั่วเหลืองถึง 2 เท่า คือนม วัว 1 แก้วจะให้พลังงาน ประมาณ 170 แคลอรี่ ส่วนนมถั่วเหลืองจะให้เพียง 80 แคลอรี่ เท่านั้น แต่คนที่ดื่มนมถั่วเหลืองเติมน้ำตาลมาก จนมีรสหวานกว่านมสดรสหวาน ก็จะ ได้พลังงานทั้งหมดพอๆ กัน แม้ว่านมถั่วเหลืองจะให้แคลเซียม ที่น้อยกว่านมวัว แต่ให้ธาตุเหล็กและวิตามินบีหนึ่งที่มากกว่า

เราดื่มนมถั่วเหลืองทดแทนนมวัวไม่ได้ เพราะจะมีแคลเซียมน้อยกว่านมวัวอยู่มาก แต่หากมีการเสริมแคลเซียมลงในนมถั่วเหลือง ก็เท่ากับว่าเสริมคุณค่าทางโภชนาการ ให้สมบูรณ์มากขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการดื่มนมถั่วเหลืองเป็นอาหารเสริมก็ควรดื่ม วันละ 1-2 แก้ว หากเป็นนมถั่วเหลืองธรรมดาที่ไม่ได้มีการเสริมแคลเซียม ขอแนะนำ ให้ดื่มนมวัวบ้างประมาณวันละ 1-2 แก้ว สำหรับผู้ใหญ่ หรือ 2-3 แก้วสำหรับเด็ก เช่นเดียวกับหญิงมีครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อจะได้แคลเซียมอย่างเพียงพอกับความ ต้องการของร่างกายในสภาวะนั้นๆ


“ถั่ว” กินวันละ 1 กำมือ ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ


ถั่วกินวันละ 1 กำมือ ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

นักวิจัยสเปนแนะนำด้วยความหวังดีว่า ให้กินถั่ววันละ 1 กำมือสักหนึ่งปี ร่วมกับกินอาหารสไตล์แบบเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีผักผลไม้และปลาเป็นหลัก จะช่วยล้างความเสี่ยง ต่ออันตรายของโรคหัวใจที่มีอยู่ในตัวให้หมดลงได้

พวกเขายังเห็นผลว่าการกินถั่วร่วมด้วย ยังให้คุณดีกว่าการบำรุงด้วยน้ำมันมะกอก อย่างที่ใช้อยู่ในอาหารแบบเมดิเตอร์ เรเนียนเสียอีก แม้ว่าทั้งสองอย่างจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ได้มากกว่าอาหารที่มีไขมันน้อยด้วยกัน

วารสารทางวิชาการ อายุรศาสตร์ ของสหรัฐฯ รายงานผลการศึกษา เผยว่า ในการทดลองผู้ที่ได้รับผลดีที่สุดเป็นผู้ที่ได้รับการแนะนำให้กินถั่ววอลนัท ถั่วอัลมอนด์ และถั่วเฮเซล แม้ว่าโดยเฉลี่ยจะไม่ทำให้น้ำหนักตัวลดลง แต่เกือบทุกคนก็พุงยุบ และปริมาณไขมันในเลือด และความดันเลือดลดต่ำลง

ดร.จอร์ดิ วาลาส วลวาโด แห่งมหาวิทยาลัยโรวิรา ไอ เวอร์จิลิ ของสเปน หัวหน้าคณะวิจัย กล่าวบอกว่า อาหารพวกถั่วช่วยให้อิ่มเร็วและยังช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น ทั้งยังอุดม ด้วยสารป้องกันการอักเสบอีกด้วย

รักษาอาการท้องเสียด้วยฝรั่ง /ผลไม้เพื่อสุขภาพ ง่ายๆของคุณ

รักษาอาการท้องเสียด้วยฝรั่ง

ใครที่มีอาการท้องเสียบ่อย ๆ กินยาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที มีวิธีรักษาอาการท้องเสียด้วยฝรั่งมาบอก..



- นำใบฝรั่งมาล้างน้ำให้สะอาด ประมาณ 10-15 ใบ แล้วโขลกพอแหลก ใส่น้ำ 1 แก้วใหญ่ นำไปต้มใส่เกลือ พอเดือดยกลงนำมาดื่มแทนชา ได้ผลดี


- นำผลฝรั่งอ่อน ๆ มาฝานเอาแต่เปลือกกับเนื้อ ใส่เกลือเล็กน้อย แล้วกินรวมกัน หรือจะใช้ต้มดื่มเป็นน้ำฝรั่งก็ได้


- นำใบฝรั่งสดที่ไม่อ่อน และไม่แก่เกินไป มาตัดหัวตัดท้าย แล้วนำไปแช่น้ำทิ้งไว้สักครู่ ตักน้ำที่ได้จากการแช่ใบฝรั่ง มาจิบทีละนิด ก็ช่วยรักษาได้เช่นกัน แต่อย่าจิบมากจนเกินไป อาจทำให้ท้องผูกได้



ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติกันได้




ทำไม คนญี่ปุ่นจึงไม่ดื่มชาเขียวแช่เย็นอย่างเด็ดขาด



ทำไม คนญี่ปุ่นจึงไม่ดื่มชาเขียวแช่เย็นอย่างเด็ดขาด

ชาเขียว เป็นชาที่คนญี่ปุ่นรู้จักกันมานานกว่า 100 ปี ในขณะที่คนไทยเพิ่งรู้จัก กันไม่เกิน 10 ปีมานี้เอง คนญี่ปุ่นนิยมดื่มชาเขียวร้อนร้อนกัน เพราะได้พิสูจน์ แล้วว่าชาเขียวร้อนมีคุณสมบัติลดอนุมูลอิสระที่เป็นพิษในร่างกายคนเราให้ขับออก มาทางอุจจาระ และขับไขมันส่วนเกินออกมาทางปัสสาวะและอุจจาระ

ชาเขียวชึ่งทำให้ร่างกายสามารถขับพิษและลดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย อันเป็นคุณสมบัติเฉพาะของชาเขียวร้อน ที่คนญี่ปุ่นนิยมดื่มกันตั้งแต่เด็กจนแก่ แต่คนไทย นิยมดื่มชาเขียวแช่เย็น

ซึ่งคนไทยส่วนมากไม่เคยรู้จักคุณสมบัติที่แท้จริงของชาเขียวเลย ทำให้คนญี่ปุ่นรุ้สึกขบขันในใจแถมหัวเราะเยาะในใจว่าในอนาคตอันใกล้นี้ คนไทยจะมีร่างกายที่อ่อนแอกว่าคนญี่ปุ่น เพราะอะไรงั้นหรือ... เพราะว่าชาเขียวที่มีคุณอนันต์นั้น ย่อมมีโทษมหันต์เช่นกัน เพราะชาเขียว จะมีประโยชน์ต่อร่างกายในขณะที่ร้อนอยู่เท่านั้น ในทางกลับกันหากดื่มชาเขียวตอนที่เย็นแล้วกลับทำให้เกิดโทษต่อร่างกาย กล่าวคือ การดื่มชาเขียวแช่เย็น นอกจากไม่ช่วยในการลดอนุมูลอิสระสารพิษออกจากร่างกายได้แล้วยังก่อให้เกิดการเกาะตัวแน่นของสารพิษดังกล่าวอันเป็นสาเหตุของมะเร็ง



นอกจากนี้ชาเขียวเย็นยังส่งผลให้ไขมันในร่างกายก่อตัวมากขึ้นตามผนังหลอดเลือด และอุดตันตามผนังลำไส้ ทำให้เกิดโรคร้ายตามมา อาทิเช่น หลอดเลือดหัวใจอุดตัน มะเร็งลำไส้ เส้นเลือดตีบ ฯลฯ เหล่านี้เป็นต้น

เรายังมีการทดสอบให้เห็นอย่างง่าย ๆและชัดเจนเกี่ยวกับอันตรายที่กล่าวมาเบื้องต้นนี้ให้ท่านเห็นได้ด้วยตนเอง โดยการนำชาเขียวแช่เย็น ยิ่งเย็นยิ่งเห็นชัด นำมาเทลงในชามก๊วยเตี๊ยว จะพบว่าหลังจากเทชาเขียวแช่เย็นลงไปได้ครู่เดียว จะมีคราบไขมันลอยเห็นเป็นคราบบนน้ำซุป หรือเกาะเป็นคราบที่ชามก๊วยเตี๊ยวทันที แล้วร่างกายท่านล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อดื่มชาเขียวแช่เย็นเข้าไปสยองไหมละ

ดังนั้นคนญี่ปุ่นจึงไม่ดื่มชาเขียวแช่เย็นอย่างเด็ดขาด แต่จะดื่มชาเขียวร้อนอย่างชาญฉลาด ในขณะที่คนไทยที่คิดว่าตนเองฉลาดกลับดื่มชาเขียวแช่เย็นกันอย่างเอร็ดอร่อย แบบฉล๊าด ฉลาดๆ

แหล่งข้อมูล : www.goosiam.com



สินค้ารวม