
ทราบหรือไม่ว่า “มะพร้าว” ก็สามารถทำให้ผิวสวย หน้าใส ได้ เลยนำความรู้เรื่องนี้มาฝากกัน
อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด
น้ำมะพร้าวถือเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่จากธรรมชาติ (Natural Mineral Drink) เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม เหล็ก โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ทองแดง กรดอะมิโน กรดอินทรีย์ และวิตามินบี แถมยังมีน้ำตาลกลูโคสที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้เป็นพลังงานได้ทันทีอีกด้วย
สปอร์ตดริ๊งค์จากธรรมชาติ
เนื่องจากน้ำมะพร้าวมีปริมาณเกลือแร่ที่จำเป็นสูง รวมทั้งมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาความอ่อนเพลียเนื่องจากอาการท้องเสียหรือท้องร่วงได้ จึงจัดเป็นสปอร์ตดริ๊งค์ (Sport Drink) สามารถดื่มหลังการสูญเสียเหงื่อจากการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย นอกจากนี้ ในประเทศไต้หวันและประเทศจีน ยังนิยมดื่มน้ำมะพร้าวเพื่อลดอาการเมาหลังการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย
รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าอยากมีผิวสวย หน้าใส ก็ดื่มน้ำมะพร้าวกันดูได้
ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
น้ำมะพร้าวสามารถช่วยเสริมสร้างความสวยใสของผิวพรรณ ทำให้เปล่งปลั่งและขาวนวลขึ้นจากภายในสู่ภายนอก เพราะในน้ำมะพร้าวมีเอสโตรเจนอยู่ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น และชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ และในน้ำมะพร้าวยังสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์ได้ดี แถมยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ขับของเสียหรือสารพิษออกจากร่างกาย (คล้ายๆ กับการดีท็อกซ์) จึงช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใส อีกทั้งความเป็นด่างของน้ำมะพร้าวยังช่วยปรับสมดุลของร่างกายในช่วงที่มีความเป็นกรดสูง ทำให้กลไกการทำงานของระบบภายในเป็นปกติ ส่งผลให้มีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
ชะลออาการอัลไซเมอร์
การดื่มน้ำมะพร้าวทุกวันจะช่วยชะลออาการอัลไซเมอร์ได้ จากผลงานวิจัยของ อาจารย์ประจำภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่า ในน้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนคล้ายฮอร์โมนเพศหญิงหรือเอสโตรเจนสูง ซึ่งมีผลช่วยชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์หรือความจำเสื่อมในสตรีวัยทอง นอกจากนี้ การดื่ม น้ำมะพร้าวเป็นประจำทุกวันยังสามารถช่วยสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้นกว่าปกติ และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นอีกด้วย
อาหารที่คุณกินมีส่วนช่วยเสริมสร้างพลังสมอง
“ การที่คนส่วนใหญ่จิตใจและสมองไม่ปลอดโปร่ง สดชื่น เป็นเพราะไม่ได้กินอาหารที่เหมาะสม ”แพทริค โฮลฟอร์ด นักโภชนาการกล่าว “ สมองของเราประกอบขึ้นจากโมเลกุลที่ได้จากอาหาร อากาศ และน้ำ ดังนั้นอาหารที่เรากินย่อมส่งผลต่อการทำงานของสมอง ”
หากต้องการเสริมสร้างสมอง คุณต้องรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ รวมถึงของว่างระหว่างวัน อย่า...อย่า...งดอาหารเช้าเด็ดขาด เพราะจากการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า การกินอาหารเช้าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยให้ทำงานผิดพลาดน้อยลงและความจำดีขึ้น
ขณะที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริสตอลพบว่า การกินอาหารเช้าที่มีประโยชน์สามารถช่วยป้องกันอาการซึมเศร้าและลดความเครียดได้ อาหารจำพวกเบอร์เกอร์ บิสกิต เค้ก และขนมขบเคี้ยวไม่ช่วยให้คุณเป็นอัจฉริยะ จงหลีกเลี่ยง
อาหารสำหรับ “สมองที่คุณรัก”
อาหารเช้า อาหารเช้าช่วยให้สมองปลอดโปร่ง คุณจึงทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว เมนูแนะนำ ไข่ดาวน้ำซึ่งอุดมด้วยโอเมก้า 3 กับขนมปังธัญพืชปิ้ง 1 แผ่น ตามด้วยน้ำส้มคั้นสดๆ 1 แก้ว
อาหารว่าง หลีกเลี่ยงอาหารหวาน เลือกกินอาหารว่างที่ทำให้สมองแล่น จำพวกเมล็ดธัญพืชและผลเบอร์รี่ที่มีวิตามินและคุณค่าทางอาหารสูง เมนูแนะนำ โยเกิร์ต ไขมันต่ำถ้วยเล็กๆ 1 ถ้วย เมล็ดธัญพืช 1 ช้อนชา
อาหารกลางวัน เนื้อไก่อุดมไปด้วยกรดอะมิโนซึ่งช่วยในการทำงานของระบบประสาท ขณะที่เมล็ดพืชต่างๆ ก็อุดมไปด้วยไขมันจำเป็นที่ช่วยให้ความคิดลื่นไหล เมนูแนะนำ สลัดไก่ย่างโรยด้วยเมล็ดธัญพืชราดน้ำมันมะกอกและแต่งหน้าด้วยมะนาว
อาหารเย็น น้ำมันปลา เช่นน้ำมันปลาแซลมอนมีโอเมก้า 3 อยู่มาก อย่าลืมเพิ่มคุณค่าวิตามินด้วยการรับประทานผัก และคาร์โบไฮเดรตจำพวกข้าวซ้อมมือ เมนูแนะนำ ข้าวซ้อมมือกับปลาแซลมอนย่างและผักนึ่ง หรือผัดเต้าหู้กับข้าวซ้อมมือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น