Custom Search

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

สุดยอด 20 อาหารล้างพิษ/ผลไม้เพื่อสุขภาพ ง่ายๆของคุณ











สุดยอด 20 อาหารล้างพิษ

คนโบราณและนักโภชนาการมักกล่าวว่า"อาหาร"เป็นยาที่วิเศษที่สุด เพราะเป็นแหล่งรวมของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

แต่ใช่ว่าต้องเป็นอาหารที่มีราคาแพงอย่างเป๋าฮื้อ หูฉลาม รังนก หรือของหายากอย่างดีหมีเท่านั้น ถึงจะให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายได้ เพราะจากการศึกษาแล้วพบว่าอาหารที่เราหาได้ตามท้องตลาดในชีวิตประจำวันก็มีประโยชน์ในตัวไม่ใช่น้อย


ที่สำคัญอาหารเหล่านี้ยังช่วยล้างพิษให้แก่อวัยวะต่าง ๆใ นร่างกาย เช่น ตับ ลำไส้ ไต ผิวหนัง ช่วยป้องกันการจับตัวของสารพิษ รวมถึงช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งสารพิษต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ในร่างกายอาจมาจากควันพิษในอากาศ สารเจือปนในอาหาร เช่น สีผสมอาหาร สารกันเสีย ยาฆ่าแมลง ปรุงรส เป็นต้น



คราวนี้ลองมาดูกันว่าอาหารชนิดใดสามารถช่วยล้างพิษให้คุณได้บ้าง


เริ่มจาก ลำดับที่ 20 สาหร่าย พืชสีเขียวในทะเลที่หลายคนมองข้ามคุณประโยชน์ แต่จากการศึกษาของ Mcgill University ที่ Montreal แสดงผลว่าสาหร่ายสามารถจับของเสียจากรังสีที่สะสมในร่างกาย


ในปัจจุบันเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงรังสีต่างๆจากคลื่นวิทยุ คลื่นโทรศัพท์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคลื่นไมโครเวฟทั้งหลายได้ ซึ่งพลังงานความร้อนเหล่านี้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ก่อให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งสาหร่ายจะช่วยดูดซึมคลื่นรังสีเหล่านั้น และสามารถจับกับพวกโลหะหนักได้ด้วย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยโปรตีนและเกลือแร่ในปริมาณมาก


19. หัวหอม ประกอบไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งหลายชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยทำความสะอาดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LD ซึ่งไม่ดีเพราะเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานดีขึ้น ช่วยรักษาโรคหอบ โรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และที่สำคัญคือช่วยรักษาโรคเบาหวานโดยช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่


18. มะนาว เป็นสุดยอดอาหารที่ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูง น้ำมะนาวสดเมื่อนำมาผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอนจะช่วยล้างพิษและทำให้เลือดสะอาดขึ้น แต่ถ้านำน้ำมะนาวสดผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง ก็จะเป็นอาหารที่ช่วยล้างพิษในลำไส้ และป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย


17. เมล็ดแฟลกซ์ ประกอบไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็น อย่างโอเมกา 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยบำรุงความจำ และมีผลดีต่อหัวใจเพราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังมีสารอื่นที่ช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันร่างการแข็งแรงขึ้น


16. กระเจี๊ยบ น้ำกระเจี๊ยบมีคุณสมบัติ ช่วยทำความสะอาดแบคทีเรียและไวรัสออกจากระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งมักก่อให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้มีอาการปัสสาวะไม่ออกหรือมีเลือดปน หรือมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งสารในกระเจี๊ยบสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเหล่านั้นได้


15. ทับทิม ตำราแพทย์แผนโบราณของชาวเอเชียกล่าวไว้ว่า การดื่มน้ำทับทิม สามารถรักษาอาการอักเสบและลดความปวดได้ เนื่องจากในผลทับทิมมีสารแอสไพรินซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับแอสไพรินในยาแก้ปวด ช่วยล้างพิษ ลดการติดเชื้อของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย และลดอาการอักเสบ

โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการไขข้ออักเสบ ปวดบวม ช้ำ แนะนำให้กินทับทิม เพราะช่วยลดอาการปวดลงได้ ขณะเดียวกันยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น


14. พืชตระกูลถั่ว (เช่นถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และถั่วขาว) จากการศึกษาพบว่าผู้ที่กินถั่วเป็นประจำมีระดับคอเลสเตอรอลน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้กิน และลดอัตราความเสียงต่อการเกิดโรคหัวใจด้วย พืชตระกูลถั่วนี้ประกอบด้วยไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ทำความสะอาดลำไส้ ลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ อีกทั้งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย


13. ขึ้นฉ่าย ถือว่าเป็นสุดยอดอาหารในการทำความสะอาดเลือด และช่วยลดความดันโลหิต สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรกินขึ้นฉ่ายเป็นประจำ หรือ ถ้าจะให้ดีควรดื่มน้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายสดในตอนเช้า เพื่อช่วยควบคุมระดับแรงดันเลือดให้คงที่ ในขึ้นฉ่ายยังประกอบไปด้วยสารต้านการเกิดมะเร็ง และสารที่ช่วยขับของเสียจากบุหรี่ในคนที่สูบบุหรี่หรือผู้ที่ได้รับควันบุหรี่ด้วย


12. แครอท เต็มไป ด้วยสารอัลฟาและเบตาแคโรทีน ( Alpha and Beta-carotene ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิตามินเอ และถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมช่วยปกป้องร่างกายจากสารพิษในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะช่วยระบบทางเดินประสาท สายตา ผิวหนัง ที่ต้องสัมผัสแสงแดเป็นประจำ และจากการวิจัยพบว่าสารในแครอตช่วยลดการเกิดมะเร็ง และช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจและหัวใจแข็งแรงขึ้น


11. มะเขือพวง คนไทยนิยมใส่มะเขือพวงในอาหาร ประเภท ผัดเผ็ด แกงป่า แกงกะทิ และน้ำพริก สมัยก่อนแกงกะทิเช่นแกงไก่ใส่มะเขือพวงเต็มไปด้วย ใส่ไก่น้อยเน้นการกินมะเขือเป็นหลักแต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้าม แกงไก่มักใส่ไก่มากกว่ามะเขือ และคนก็เลือกกินแต่ไก่ จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนในปัจจุบันมีรูปร่างอ้วนกว่าคนสมัยก่อน

มะเขือพวงเป็นผักที่เต็มไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งสามารถช่วยดูดซึมไขมันในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วยจับไขมันอิ่มตัว (ไขมันอันตราย) และ ขับออกจากร่างกายโดยระบบขับถ่าย ทั้งยังมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยกำจัดของเสียออกจากระบบทางเดินอาหารได้เร็วขึ้นและลดการสะสมของเสีย


10. ส้มโอ หรือเกรปฟรุต เพราะเป็นผลไม้รสชาติดีจึงได้รับความนิยมในอาหารมื้อเช้าของชาวตะวันตก สารเพกตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ประเภทหนึ่งในเกรปฟรุต สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ก่อนที่จะจับตัวเป็นก้อนและขวางทางเดินในหลอดเลือด นอกจากนี้เพกตินยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้โลหะหนักเหล่านี้ทำอันตรายต่อร่างกาย ส่วนเกรปฟรุตช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งกระเพราะอาหารและมะเร็งตับอ่อน สารต้านอนุมูลอิสระในเกรปฟรุตช่วยปกป้องสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย


9. กระเทียม จากหลายการศึกษาให้ผลตรงกันถึงคุณสมบัติของกระเทียมในการทำความสะอาดร่างกาย นั่นคือ การกินกระเทียมเพื่อ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับและฆ่าพยาธิในทางเดินอาหาร และฆ่าเชื้อไวรัส โดยเฉพาะทำความสะอาดเลือดและระบบลำไส้ ทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นและลดแรงดันโลหิต นอกจากนี้ยังต่อต้านการเกิดมะเร็งและทำให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น แต่ก็ควรระวังเรื่องการกินกระเทียมมากเกินไป ซึ่งก่อให้เกิดลมหายใจที่มีกลิ่นกระเทียมไปด้วย


8. บลูเบอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มี ค่าแอนติออกซิแดนต์สูงมากชนิดหนึ่ง และถือเป็นหนึ่งใน สุดยอดอาหารรักษาโรค เนื่องจากในบลูเบอร์รี่มีสารแอสไพรินตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดการระคายเคือง สารที่มีในบลูเบอร์รี่สามารถเข้าไปขัดขวางแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ


7. กะหล่ำ เต็มไปด้วย สารต่อต้านมะเร็งและอนุมูลอิสระ ( Antioxidant ) และช่วยตับขับฮอร์โมนที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นฮอร์โมนความเครียดที่มีผลเสียต่อร่างกาย ทั้งยังช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร รักษาและปกป้องกระเพราะอาหารจากแบคทีเรียและไวรัสต่างๆ พืชตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลี และกะหล่ำปม ผักเหล่านี้ช่วยทำความสะอาดร่างกายและช่วยกำจัดของเสียจากสิ่งแวดล้อม เช่น ของเสียจากควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสีย และช่วยให้ตับผลิตเอนไซม์ออกมาให้เพียงพอในการกำจัดของเสีย


6. บีตรูต ผักสีแดงที่นิยมใส่ในสลัดนี้นับเป็นผักมหัศจรรย์ ซึ่งประกอบไปด้วย ไฟโรเคมีคอล ( Phytochemical ) วิตามินและเกลือแร่หลายชนิด ซึ่งทำให้บีตรูตมี คุณสมบัติต่อต้านชื้อโรค ทำความสะอาดเลือด ตับและระบบน้ำเหลือง อีกทั้งมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายรับออกซิเจนได้มากขึ้น จึงช่วยกำจัดของเสียได้ง่ายและเร็วขึ้น ซึ่งจากกการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่าบีตรูตช่วยปรับระดับกรด-ด่างในเลือดให้สมดุลด้วย


5. อะโวคาโด อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ปัจจุบันเราก็สามารถหาซื้ออะโวคาโดได้จากตลาดทั่วไป ในอะโวคาโดมีสารกลูตาไทโอน(Glutathione ) ที่สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ทั้งช่วยจับสารพิษที่เป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งกว่า 30 ชนิด และขณะเดียวกันก็ช่วยให้ตับกำจัดของเสียจำพวกสารเคมีและโลหะหนัก ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ( University of Michigan ) พบว่าผู้สูงอายุซึ่งกินอาหารที่มีสารกลูตาไทโอนสูงจะมีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ได้กิน และมีอัตราการเกิดโรคหัวใจน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์


4. ตำลึง ผักใบเขียวที่ขึ้นข้างรั้วหาง่าย และราคาไม่แพงนี้ ในสมัยก่อนเรามักนำมาทำแกงจืดตำลึงโดยใสเนื้อสัตว์น้อยๆ แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าแกงจืดตำลึงจะมีตำลึงอยู่ไม่กี่ใบ และมีหมูสับเต็มไปหมด ซึ่ง ตำลึงมีคุณสมบัติ ช่วยผลิตน้ำดีที่จะทำให้ลำไส้ขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีขึ้น นอกจากนี้สารที่มีอยู่ในตำลึงยังช่วยให้ตับสลายไขมันในร่างกายด้วย


3. แอปเปิ้ล ประกอบไปด้วยเพกตินสูง เพกตินเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยจับคอเลสเตอรอลและโลหะหนักในร่างกายที่ปะปนมากับอาหาร เช่น ปรอท ตะกั่ว ซึ่งทำลายเซลล์สมอง นี่คือเหตุผลที่เราควรจะกินแอปเบิลเพื่อล้างสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส จากการศึกษาทดลองยังพบว่าแอปเปิลช่วยขับสารเคมีที่ปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็ก และทำให้เกิดไมเกรนในผู้ใหญ่ได้


2. อัลมอนด์ เป็นถั่วที่มี ใยอาหารสูง มีแคลเซียมและโปรตีนที่ดีต่อร่างกาย แม้จะมีไขมัน แต่ก็เป็นไขมันที่ดีและจำเป็นต่อร่างกายในระหว่างที่เราทำการล้างพิษจึงควรกินอัลมอนด์ นอกจากนี้อัลมอนด์ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็จะเกิดอาการไฮเปอร์ไกลซีเมีย ( Hyperglycemia ) ทำให้รู้สึกหิวน้ำมากกว่าปกติ หายใจไม่ออก ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และหากน้ำตาลในเลือดต่ำที่เรียกว่า ไฮโปไกลซีเมีย( Hypoglycemia )จะทำให้เกิดอาการหน้ามืดเป็นลม ใจสั่น ไม่มีแรง คิดอะไรไม่ออก


1. กล้วย มีคุณสมบัติในการ บำรุงและสร้างความแข็งแรงแก่กระเพาะอาหาร ในขณะเดียวกันก็ให้เกลือแร่ที่จำเป็นแก่ร่างกาย เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกายโดย ช่วยขับของเหลว หรือสารพิษส่วนเกิออกจากร่างกายโดยช่วยขับของเหลว หรือสารพิษส่วนเกินออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การกินกล้วยเป็นประจำยังช่วยป้องกันท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติอีกด้วย



นี่คือความสุดยอดของบ้านเมืองเรา.....ซึ่งบ้านเมืองอื่น..แอบอิจฉา



ผักผลไม้ เพื่อสุขภาพ ลดความอ้วน/ผลไม้เพื่อสุขภาพ ง่ายๆของคุณ


ผักผลไม้ เพื่อสุขภาพ ลดความอ้วน

ประโยชน์ของผักและผลไม้ คุณทราบหรือไม่ว่าผักและผลไม้ที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันนั้น มีสารอาหารอะไรอยู่บ้าง และมีประโยชน์ต่อร่างกายเราอย่างไร




มังคุด

มังคุดราชินีแห่งผลไม้ ด้วยความขาวอวบของเมล็ดมังคุดที่เรากิน ทำให้เราติดใจในรสชาติ และความหวานสดชื่นของมังคุด แม้มังคุดจะมีรสชาติหวานแต่มีพลังงานต่ำ แคลอรีน้อย จึงไม่ต้องกลัวอ้วนแถมทางการแพทย์นั้นยังยืนยันว่ามังคุดเป็นอาหารเสริมที่ดีซึ่งช่วยลดความอ้วนได้ด้วย

มังคุดเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยสูง จึงเป็นประโยชน์ต่อการขับถ่ายทำให้ท้องไม่อืด และป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ จึงนับว่าเป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก

เปลือกของมังคุดที่มีรสชาติฝาด จะเป็นยาในการรักษาอาการท้องร่วงได้เป็นอย่างดี แต่หากบริโภคมากไป สารแทนนินในเปลือกมังคุดก็อาจจะกดประสาท และเพิ่มความดันโลหิตได้




แตงโม

แตงโมเป็นผลไม้เย็นๆ ที่เหมาะกับอากาศร้อนอย่างบ้านเรามาก เพราะความหวานเย็นของแตงโม ทำให้เรากินแล้วชุ่มคอดับความร้อนได้ดี จึงเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นไข้ตัวร้อน เพราะความจริงแล้วแตงโมจะช่วยระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี นอกจากแตงโมจะช่วยลดไข้ได้แล้ว แตงโมยังเป็นผลไม้ที่กินได้แบบไม่อั้น เพราะแม้จะหวานแต่ก็เป็นผลไม้ที่มีแคลอรีค่อนข้างน้อย จึงไม่ต้องกลัวอ้วน

ส่วนเมล็ดของแตงโม ที่เราชอบมาขบเคี้ยวเพราะความมันนั้นเป็นยาอย่างดีในการรักษาโรคตับ และมีคุณสมบัติเป็นยาถ่ายพยาธิอีกด้วย สำหรับคนที่มักจะเป็นโรคขัดเบา แตงโมนี้ก็ช่วยได้เช่นกัน




ทุเรียน

ผลไม้เมืองร้อนของไทย ที่มีชื่อเสียงไปไกลทั่วโลก ทุเรียนมีคุณสมบัติร้อน ไม่ควรกินในปริมาณมาก เพราะจะทำให้เกิดอาการร้อนใน กระหายน้ำได้ ดังนั้นหากกินทุเรียนคู่กับแอลกอฮอล์จะยิ่งทำให้ร่างกายร้อน และเป็นพิษมากขึ้น

เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานมากกว่าผลไม้รสหวานอื่นๆ ในปริมาณเท่ากันถึง 3 เท่า ผู้สูงอายุ คนอ้วน หรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน ขึ้นสูงปรี๊ดขึ้นมาทันที ถือว่าเป็นอันตรายมาก

อย่างไรก็ตามทุเรียนยังอุดมไปด้วยวิตามิน C ซึ่งเป็นประโยชน์ในการสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ไม่ป่วยง่าย โดยเฉพาะไข้หวัดหากได้รับวิตามิน C อย่างเพียงพอ คุณจะปลอดภัยจากโรคนี้ไปเลย

ดังนั้นไม่ว่ารสชาติหรือกลิ่นของทุเรียนจะถูกอกถูกใจคุณขนาดไหนก็ตาม ก็ควรจะดูด้วยว่าสุขภาพของคุณควรจะกินทุเรียนหรือเปล่าเพราะหากไม่ดูก่อนก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณอย่างมาก




แอปเปิ้ล

แอปเปิลผลไม้เมืองนอกที่ปัจจุบันเข้ามามีบทบาทกับคนไทยอย่างมาก โดยเฉพาะสาวๆ ที่กินได้กินดี เพราะเส้นใยที่มีอยู่มากจะช่วยควบคุมการขับถ่ายให้เป็นปกติ รูปร่างจึงงดงาม แถมบริโภคมากก็ไม่ทำให้อ้วนด้วย

น้ำตาลฟรกโทสที่มีในปริมาณสูงนั้น ทำให้เมื่อเรากินแอปเปิลเข้าไป ร่างกายจะมีการเผาผลาญน้ำตาลนี้ได้เป็นอย่างดี จึงเป็นการควบคุมน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ ไม่สูงขึ้นจนเกิดปัญหาได้

อาการท้องร่วงให้นำแอปเปิลสดไปต้ม สามารถดื่มน้ำแอปเปิลต้มเพื่อแก้อาการท้องร่วงได้ดีทีเดียว

อีกทั้งแอปเปิลยังมีสรรพคุณในการลดอาการอักเสบของผิวหนังอย่างแผลพุพองต่างๆ ด้วย โดยนำแอปเปิลมาปั่นแล้วนำมาทาที่แผลไม่ช้าแผลจะแห้งและตกสะเก็ดในที่สุด

ปัจจุบันอาจมีการนำแอปเปิลมาอบแห้ง แต่ก็ไม่แนะนำให้กินเพราะการอบแห้งทำให้วิตามิน C ถูกทำลายไปมาก คุณค่าทางอาหารจึงน้อยลง ดังนั้นเราควรกินแอปเปิลสดมากกว่า และรสชาติก็ดีกว่าด้วย




พุทรา

พุทรา ผลไม้เก่าแก่ ที่มีรสชาติหวานกรอบ ปัจจุบันพุทราจีนนั้นดีรับความนิยมมากกว่าพุทราพันธุ์อื่น เพราะผลใหญ่และรสชาติอร่อยถูกใจ

พุทราเป็นผลไม้ที่มีวิตามิน A และ c ในปริมาณมาก ซึ่งส่งผลต่อการบำรุงสายตาและผิวให้สุขภาพดีไม่เป็นโรคเกี่ยวกับผิวพรรณและสายตา ตาไม่ฟาง และไม่บอดกลางคืน

เปลือกของพุทราเป็นยาแก้อาการท้องเสียอย่างดี ด้วยเพราะสารแทนนิน ซึ่งออกรสฝาดในเปลือกพุทรานั่นเอง

เมล็ดพุทราก็มีประโยชน์มากเช่นกัน เพราะนำมาป่นรักษาอาการชักในเด็กได้ อีกทั้งยังลดไข้แก้หวัดในเด็กด้วย

ใบของพุทราก็มีคุณสมบัติในการลดพิษแมลงสัตว์กัดต่อยและผื่นคันต่างๆ ได้อีกด้วย สรรพคุณมีตั้งแต่รากจรดปลายจริงๆ มีพุทราไว้ในบ้านสักต้นรับรองคุ้มจริงๆ




สาลี่

สาลี่ผลไม้ที่ดูอย่างไรหน้าตาก็คล้ายกับแอปเปิล คุณสมบัติของสาลี่เป็นผลไม้เย็น ดังนั้นจะช่วยให้รู้สึกสดชื่น ดับกระหายได้เมื่อเรากิน เวลาเป็นไข้การดื่มน้ำสาลี่จะช่วยถอนพิษไข้ให้คุณฟื้นไข้ได้เร็วกว่าปกติ

เมล็ดของสาลี่ก็มีประโยชน์มากเช่นกัน เพราะการดื่มน้ำต้มเมล็ดสาลี่ จะช่วยบรรเทาและรักษาอาการขัดเบา ปัสสาวะไม่ออกหรือปัสสาวะแสบได้เป็นอย่างดี

บางคนอาจนิยมนำสาลี่มาดองไว้กิน ซึ่งก็มีประโยชน์ไม่แพ้สาลี่สด เพราะการหมักดองจะทำให้เกิด จุลินทรีย์ เมื่อกินเข้าไป จุลินทรีย์ดังกล่าวขะช่วยย่อยอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายของร่างกายเป็นปกติ อีกทั้งยังช่วยรักษาอาการเจ็บคอ และรักษาโรคพิษสุราเรื้อรังอีกด้วย คุณประโยชน์ขนาดนี้จะพลาดได้อย่างไร




แตงไทย

แตงไทยนับว่าเป็นผลไม้ของไทยที่มีรสชาติดี กลิ่นหอม และมีคุณค่าทางโภชนาการไม่น้อยทีเดียว

เรามักจะนิยมกินแตงไทยในลักษณะของผลที่สุก ซึ่งจะมีผลใหญ่กว่าแตงกวาหลายเท่า ตามตำรายาจีนบอกว่าแตงไทยมีคุณสมบัติเย็นจัด จึงมีประโยชน์ต่อการดับกระหาย และช่วยถอนพิษไข้ได้ดี

ตามปกติเรามักจะกินแตงไทยสุกกับน้ำกะทิ เรียกน้ำกะทิแตงไทย หรือกินกับน้ำตาลทรายขาวก็อร่อยดี แต่ไม่ว่าคุณจะกินแบบใดแตงไทยก็มีคุณสมบัติดีเด่นในการรักษาโรค อันได้แก่ อาการไอจากวัณโรค ท้องผูก และโรคปัสสาวะแสบ แตงไทยจึงช่วยให้อาการและโรคดังกล่าวทุเลา และมีโอกาสหายได้ในที่สุด

ตามปกติเรามักจะกินแตงไทยสุกกับน้ำกะทิ เรียกน้ำกะทิแตงไทย หรือกินกับน้ำตาลทรายขาวก็อร่อยดี แต่ไม่ว่าคุณจะกินแบบใดแตงไทยก็มีคุณสมบัติดีเด่นในการรักษาโรค อันได้แก่ อาการไอจากวัณโรค ท้องผูก และโรคปัสสาวะแสบ แตงไทยจึงช่วยให้อาการและโรคดังกล่าวทุเลา และมีโอกาสหายได้ในที่สุด




ละมุด

ละมุดเป็นผลไม้ไทยที่ให้ความหวานมาก แต่ขณะเดียวกันก็เป็นผลไม้ที่ให้เส้นใยอาหารค่อนข้างสูง ใยอาหารเหล่านี้ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ทำให้การทำงานเป็นปกติหรืออาจจะดีมากขึ้น

เมื่อการขับถ่ายเป็นปกติไม่มีการตกค้างของอาหาร ก็จะช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย

นอกจากนี้แล้วความหวานของน้ำตาล ยังส่งผลต่ออารมณ์และฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกาย ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า คิดจะทำอะไรก็คล่องแคล่วไม่เกียจคร้าน และทำอย่างมีความสุข

ยางของละมุดยังมีประโยชน์คือนำมาทำหมากฝรั่งที่วัยรุ่นชอบเคี้ยวกันแบบเพลินๆ และยังนำมาทำรองเท้าบูตอีกด้วย จึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพและให้ประโยชน์ในด้านการใช้สอยด้วย



ขนุน

ขนุนไม้มงคลของไทยอีกชนิดหนึ่งที่มีรสชาติหอมหวาน ถูกปากนักชิมที่ชอบผลไม้ทั้งหลายมานาน

ผลขนุนอ่อนจะมีใยอาหารมาก จึงมีประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายทำให้การบีบตัวของลำไส้เป็นไปอย่างปกติ ทำให้ท้องไม่ผูก สุขภาพดีอาการท้องอืดท้องเฟ้อก็ไม่มีเช่นกัน อีกทั้งรสฝาดของขนุนยังช่วยรักษาอาการท้องเสียได้ด้วย ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อระบบการขับถ่ายของเราอย่างมาก

ส่วนขนุนสุกก็มีคาร์โบไฮเดรตในรูปของน้ำตาลมาก จึงทำให้ผู้กินสดชื่น แต่สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง เพราะจะยิ่งเพิ่มระดับน้ำตาลให้มากขึ้น ส่วนสีต่างๆ ในเนื้อขนุนที่มีสารแคโรทีนยังเป็นสารต้านปฏิกิริยาออกซิเดชัน จึงป้องกันมะเร็งที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย





มะม่วง

มะม่วงเป็นผลไม้เมืองไทย ที่หากินได้ทุกฤดู ราคาไม่แพง ที่สำคัญรสชาติก็ถูกใจนักชิมอีกด้วย นอกจากความอร่อยแล้ว มะม่วงยังอุดมไปด้วยคุณค่าจากสารอาหารหลายชนิด

มะม่วงดิบนั้น มีสรรพคุณช่วยให้ร่างกายแข็งแรงไม่เหนื่อยง่ายเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่หมดพลังชีวิต เพราะมะม่วงจะสร้างความสดชื่นให้กับคุณได้

ส่วนมะม่วงสุกไม่ว่าจะกินเปล่าๆ หรือกินกับข้าวเหนียวก็มีสรรพคุณเป็นยาระบายได้เป็นอย่างดี ระบบขับถ่ายจะเป็นปกติ นับว่าเป็นการขับพิษต่างๆ ออกจากร่างกายได้ทางหนึ่ง

สารเบต้าแคโรทีนที่มีอยู่มากมายในมะม่วง จะช่วยป้องกันโรคร้ายอย่างมะเร็งได้ดีมาก ที่สำคัญมะม่วงเหมาะสำหรับคนป่วยที่ต้องการพักฟื้น เพราะจะช่วยสร้างความแข็งแรง และซ่อมแซมเซลล์ที่เสีบไปให้กลับคืนมาเร็วขึ้น




มันแกว

ดูเหมือนว่ามันแกวจะเป็นได้ทั้งผักและผลไม้ เพราะไม่ว่าจะนำมาผัดกับไก่หรือหมูเป็นอาหารคาวหรือจะนำมาจิ้มพริกกับเกลือก็อร่อยถูกปากทุกเมนูจริงๆ มันแกวมีวิตามิน C และเส้นใยสูง มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย และป้องกันไข้หวัดได้ดีมาก

ส่วนใบของมันแกวนั้นมีคุณสมบัติในการรักษาโรคผิวหนังอย่างกลาก เกลื้อน และยังเป็นยาถ่ายพยาธิที่มีสรรพคุณดีตัวหนึ่ง

นอกจากมันแกวจะดีต่อสุขภาพแล้ว เมล็ดแก่ของมันแกว ยังสามารถนำมาบดทำยาฆ่าแมลง ไม่ต้องสิ้นเปลืองซื้อยากำจัดแมลงที่มีราคาแพงๆ อีกด้วย




วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

อยากหายเครียดฟังทางนี้..อาหารช่วยคุณได้/ผลไม้เพื่อสุขภาพ ง่ายๆของคุณ


อยากหายเครียดฟังทางนี้..อาหารช่วยคุณได้

ก่อนจะเผลอตัวหยิบอาหารอะไรก็ได้เข้าปาก นัยว่ากินเพื่อระบายความเครียด ลองไปดูกันว่ามีอาหารอะไรบ้างที่ช่วยคลายเครียดได้จริง




ข้าว-ขนมปัง

เมื่อร่างกายได้รับแป้งหรือสารอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรต จะไปเพิ่มปริมาณสารเคมีในสมองที่มีชื่อว่า "เซโรโทนิน" ให้มากขึ้น ซึ่งเจ้าสารตัวนี้ จะออกฤทธิ์ให้สมองสงบลง ดังนั้นหลังจากกินอาหารอิ่มๆ เราจึงรู้สึกผ่อนคลายและสบาย แต่ถ้ากินมากเกินไปจากที่สบายหายเครียดก็จะเป็นง่วงนอนแทนเอาได้

ส่วนของหวานที่กินทีไรแล้วรู้สึกสบายใจหายเครียดทุกทีไป อย่างไอศกรีม น้ำหวาน ขนม ฯลฯ ก็เป็นเพราะว่าน้ำตาลในของหวานนั้นกลายเป็นแป้ง แล้วก็ไปเพิ่ม "เซโรโทนิน" ให้สมองนั่นเอง ถึงจะทำให้คลายเครียด แต่ถ้าเผลอกินมากเกินไปน้ำหนักก็จะอาจจะพุ่งพรวดเป็นของแถมได้ด้วย





ช็อกโกแลต

นอกจากจะมีน้ำตาลหวานๆ กินทีไรชุ่มคอชื่นใจแล้ว ในช็อกโกแลตยังมีสารธีโอโบรมีนและสารฟีนิลเอธิละมีน ที่จะช่วยให้คนกินเกิดความครื้นเครง แถมไขมันในช็อกโกแลตยังเพิ่มปริมาณ "เอนโดรฟีน" ฮอร์โมนแห่งความสุขในสมองให้มากขึ้นด้วย

ฟังแบบนี้พวกสาวกช็อกโกแลตคงดี๊ด๊ายินดีกันถ้วนหน้า ขอบอกว่าของแบบนี้ต้องยึดสายกลางเข้าไว้ กินแต่พอดี ไม่งั้นเกิดปัญหา "อ้วนจังตังค์หมด" มาโทษกันไม่ได้นะ



กล้วยหอม

นึกไม่ถึงใช่ไหมล่ะว่ากล้วยหอมจะมีคุณสมบัติพิเศษอย่างนี้ด้วย อย่าลืมว่าในกล้วยหอมนั้นมีแมกนีเซียมและวิตามินบี 2 ซึ่งเป็นสารอาหารทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและระบบประสาททำงานได้ดี
คราวนี้ก็คงถึงบางอ้อกันแล้วซินะว่า ทำไมหม่ำบาบาน่าสปลิททีไร เดินสบายใจออกจากร้านไอศกรีมทุกทีไป






นมอุ่นๆ

พอพูดถึงนม หลายคนคงนึกถึงแคลเซียมก่อนเป็นอย่างแรก แ ต่ในนมยังมีวิตามินบี 2 และวิตามินดีที่ช่วยในการทำงานของระบบประสาท และถึงจะไม่มีสารที่ช่วยให้สมองผ่อนคลายโดยตรง แต่การดื่มนมอุ่นๆ ก่อนนอนก็จะช่วยให้หลับสบายขึ้น เพราะฉะนั้นใครที่เครียด กังวลจนนอนไม่หลับ อย่าลืมนึกถึงนมอุ่นๆ สักแก้ว (ถ้ากลัวไขมันให้เลือกแบบ Low Fat Non Sugar)

ถ้าเครียดครั้งต่อไป ก่อนจะเผลอหยิบอะไรเข้าปาก ให้เดินสายกลางสักนิด รู้จักเลือกกินอย่างถูกต้อง และพอเหมาะ ก็จะช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลได้ดีขึ้น


สินค้ารวม